1 วันใน “กระบี่” ไม่เที่ยวทะเล แล้วไปไหนดี ทริปสั้นรอบเมือง

1 วันใน “กระบี่” ไม่เที่ยวทะเล แล้วไปไหนดี ทริปสั้นรอบเมือง

1 วันใน “กระบี่” ไม่เที่ยวทะเล แล้วไปไหนดี ทริปสั้นรอบเมือง ก็เรานั้นมันคนละชั้น จะทำเช่นไรให้มองเห็นกัน … เมื่อมีโอกาสดู MV เพลงนี้ ทำให้ต้องรีบเข้าอากู๋และ search ดูว่าทีมงานเขาไปถ่ายทำกันที่ไหนน๊า (เฮร้ย !! กระบี่นี่เอง) มีหลายสถานที่เราไม่เคยไป เพราะมากระบี่ทีไรก็พุ่งลงทะเลตลอดเวลา เอาหล่ะ !! กระบี่ ไม่ได้มีดีแค่ทะเลนะตัวเธอ

ที่มาของทริปนี้จริง ๆ แล้วเรานัดกับเพื่อนมาสักระยะ บวกกับตั๋วโปรก็มา แล้วจะชักช้าอยู่ใย เราไปกันตั้ง 4 วัน 3 คืน ซึ่งโปรแกรมในแต่ละวันก็ท่องทะเลชมความสวยงามตามไฮไลท์จังหวัด แต่วันแรกดันบินถึงไฟท์สาย ทำให้ไม่ทันรอบเรือที่พาออกไปดำน้ำ แต่เราก็มีโปรแกรมรองรับอยู่แล้ว เพราะเราจะเที่ยวตัวเมือง แบบชิวเว่อร์ เว่อร์ แล้วคุณจะรู้ว่า “1 วันในกระบี่ ไม่เที่ยวทะเล แล้วไปไหนดี” สายกิน สายเที่ยว เรียนเชิญทางนี้ !!

เขาขนาบน้ำ

การเดินทาง : เรือหางยาว ขึ้นเรือที่ท่าเจ้าฟ้า อำเภอเมือง

เชื่อไหมว่ามีโอกาสมาเที่ยวกระบี่หลายครั้ง แต่ยังไม่เคยมาชมความสวยงามของเขาขนาบน้ำเลย “เขาขนาบน้ำ” เป็นภูเขาหินปูนตั้งเรียงรายขนาบสองฝั่งน้ำ ห้อมล้อมด้วยป่าชายเลน

ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของจังหวัดกระบี่ รถของ Phi Phi Tours ส่งเราตรงประติมากรรมปูดำ เพื่อเช่าเรือหางยาวหรือคนพื้นเมืองเรียก “เรือหัวโทง” ล่องไปตามลำน้ำของแม่น้ำกระบี่ ค่าเช่าเหมาลำ 300 บาท ใช้เวลาท่องเที่ยวประมาณ 1 ชั่วโมง

นอกจากความสวยงามของธรรมชาติสองฝั่งน้ำแล้ว ที่นี่ยังมีถ้ำเขาขนาบน้ำด้วย ด้านในมีหินงอกหินย้อยที่สวยงามตระการตามาก ใจกลางถ้ำมีช่องให้แสงทะลุลงมาสะท้อนกับหินงอกหินย้อยเป็นอีกหนึ่งความงดงามที่ไม่ควรพลาดมาชม

ชุมชนบ้านเกาะกลาง

การเดินทาง : เรือหางยาว ขึ้นเรือที่ท่าเจ้าฟ้า อำเภอเมือง

ใครที่อยากเรียนรู้และเห็นวิถีชีวิตชาวกระบี่แบบดั้งเดิมต้องไม่พลาดที่จะมาเยือนบ้านเกาะกลาง แล้วคุณจะสนุกไปกับหลากกิจกรรมที่ไม่เคยสัมผัส “ชุมชนบ้านเกาะกลาง” เป็นชุมชนชาวมุสลิม

คนที่นี่ประกอบอาชีพทำประมงเป็นหลัก นอกจากนั้นบนเกาะยังมีพื้นที่ปลูกข้าวสังข์หยด งานผ้าปาเต๊ะ รวมถึงการต่อเรือหัวโทง เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่นำเสนอวิถีชีวิตความสุขแบบพอเพียงและวัฒนธรรมชาวกระบี่ดั้งเดิมได้เป็นอย่างดี

และเนื่องจากเป็นชุมชนชาวมุสลิมจึงไม่ควรนำหมูหรือสุนัขขึ้นเกาะโดยเด็ดขาด จึงได้เห็นแต่น้องแมวเหมียวเต็มไปหมด โดยที่ตั้งชุมชนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตัวเมืองกระบี่

การเดินทางไปต้องเหมาเรือหางยาวพาข้ามไปหรือใช้บริการเรือข้ามฟากแถวบริเวณสวนสาธารณะธาราเท่านั้น ใช้เวลาเพียง 10 นาทีก็เดินทางถึงแล้ว

เมื่อขึ้นฝั่งที่บ้านเกาะกลาง เราได้ยินเสียงเด็กกระโดดเล่นน้ำกันตู้มต้าม และพบกับพี่สุดหล่อซาเล้งพาซิ่งรอต้อนรับ การท่องเที่ยวรอบเกาะกลาง มีบริการรถซาเล้งพาเที่ยว ราคาประมาณ 300 – 350 บาทต่อคัน นั่งได้ 4 – 5 คน

นาข้าวสังข์หยด

ถึงแม้จะเป็นเกาะเล็ก ๆ มีพื้นที่ไม่มาก แต่เราก็ยังเห็นการทำเกษตรกรรมบนเกาะ “ข้าวสังข์หยด” เป็นข้าวนาปีปลูกปีละครั้งเท่านั้น เป็นข้าวที่มีคุณค่าทางอาหารสูง ชาวบ้านที่นี่ปลูก เก็บเกี่ยว

และสีข้าวกันเอง เพื่อไว้กินในชุมชน อีกทั้งเรายังเห็นการเลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงวัว รวมถึงเลี้ยงแพะ บนเกาะอีกด้วย ถือว่าเป็นวิถีชุมชนพอเพียงที่ดีงามมากจริง ๆ

คิดถึง คอทเทจ

โฮมสเตย์หลังเล็กที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่นเสมือนได้พักอยู่ในบ้าน ไม่แปลกใจที่จะเห็นนักท่องเที่ยวต่างแวะเวียนกันมาเยี่ยมเยียน บางคนมานอน บางคนมาวาดรูป ซึ่งกิจกรรมนี้เราชอบมาก

คนที่ไม่ได้พักก็สามารถแวะเวียนไปวาดภาพระบายสีได้ โดยสีที่ใช้ล้วนมีที่มาจากวัตถุดิบธรรชาติบนเกาะกลาง อาทิ สีดำ มาจากดินเกาะกลาง สีม่วงจากดอกอัญชัน เป็นไอเดียน่ารักที่ช่วยแต่งแต้มให้เกาะกลางมีสีสันดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

ศิลปะผ้าปาเต๊ะ

การรวมกลุ่มของชาวบ้านผลิตผ้าปาเต๊ะขายเพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้ให้กับชุมชน ผ้าปาเต๊ะก็จะคล้ายกับผ้าบาติก การทำลวดลายใช้แท่นโลหะพิมพ์ ปั้มเทียนลงลาย และลงสีสวยงาม มาที่นี่เค้าให้เราทำผ้าปาเต๊ะติดไม้ติดมือกลับบ้านเป็นของฝากกันด้วย

ต่อเรือหัวโทงจำลอง  

เรือหัวโทง เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของจังหวัดกระบี่ บนเกาะกลางมีกลุ่มสอนการทำเรือหัวโทงแบบจำลอง โดยทำเป็นของที่ระลึกไว้จำหน่ายแก่นักท่องเที่ยวที่อยากเก็บเป็นของฝากกันด้วย

chill out สวนสาธารณะธารา

ใครจะคิดว่าสวนสาธารณะที่นี่จะติสต์ได้ขนาดนี้ เพราะนอกจากเราจะมานั่งกินส้มตำ ข้าวเหนียว ไก่ย่าง เหมือนสวนสาธารณะทั่วไป แต่สวนสาธาณะธารานั้น

เรามานั่งวาดภาพระบายสีกัน ศิลปินตัวน้อยที่มานั่งพักผ่อนกับครอบครัวพากันบรรเลงสีกับตุ๊กตาปูนปาสเตอร์ บ้างก็ปลดปล่อยจินตนาการกับแผ่นภาพ คือดีอ่ะ ไม่คิดว่าการมาเที่ยวตัวเองจะได้มานั่งระบายสี ช่างชิวเหลือเกิน

ถนนคนเดินกระบี่

ถนนมหาราช ซอย 8 อำเภอเมือง

เข้าสู่ช่วงค่ำคืนอะไรจะดีไปกว่าการเดินหาของกินอร่อย ช็อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง ถนนคนเดินที่นี่มีอาหารท้องถิ่นน่าตาน่ากินมากมาย มีสินค้าพื้นเมืองปูเสื่อจำหน่าย และยังมีการแสดงพื้นบ้านให้ชมอีกด้วย

ติดตามข้อมูลข่าวสารอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ menuufa.com

ติดตามข่าวสารอื่นๆ>>> http://dates-finder.com/ | https://sportufabet.net/