เที่ยวแคนาดา ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี รับไอหนาว กับธรรมชาติโทนอุ่น

0

เที่ยวแคนาดา ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี รับไอหนาว กับธรรมชาติโทนอุ่น

เที่ยวแคนาดา ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี รับไอหนาว กับธรรมชาติโทนอุ่น เมื่อพูดถึง แคนาดา สิ่งแรกๆ ที่ทุกคนนึกถึงนอกจากความหนาวเย็นสุดขั้วแล้ว สิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี หรือ ฤดูใบไม้ร่วง ที่เรียกว่าเป็นฤดูไฮไลท์ของ ประเทศแคนาดา ใครที่ชอบชมธรรมชาติโทนสีอุ่นๆ ของต้นเมเปิ้ลตัดกับไอหนาวจางๆ ลองตามเราไปเช็คอิน ที่เที่ยวแคนาดา ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี กันค่ะ แล้วทุกคนจะหลงรักในสีสันของธรรมชาติของที่นี่

Niagara Park Way

คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก น้ำตกไนแองการ่า (Niagara Falls) หนึ่งในน้ำตกสุดยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ระหว่างชายแดนประเทศแคนาดา รัฐออนตาริโอ (Ontario) และ สหรัฐอเมริกา รัฐนิวยอร์ก (New York) ในบริเวณเดียวกันนั้นจะเป็นที่ตั้งของ Niagara Parkway เส้นทางสายประวัติศาสตร์เลียบ แม่น้ำไนแองการ่า Niagara River)

ที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่มากมาย เส้นทางนี้เริ่มต้นตั้งแต่น้ำตกทางทิศใต้ยาวไปจนถึง เมืองทะเลสาบไนแรงการ่า (Niagara-on-the-Lake) ที่ตั้งอยู่ตรงทิศเหนือค่ะ ระหว่างทางทุกคนจะได้ชมกับธรรมชาติสุดอลังการของสายน้ำและใบไม้เปลี่ยนสีสลับกันอย่างสวยงามในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

นั่งรถไฟบน เส้นทาง Agawa Canyon (Agawa Canyon Tour Train) ที่จะเปิดให้ทุกคนได้พบกับประสบการณ์อันตื่นตาตื่นใจในช่วงฤดูใบไม้ร่วงตั้งแต่เดือนกันยายน-เดือนตุลาคมของทุกปี ในระยะทาง 366 กิโลเมตร พวกเราจะได้นั่งรถไฟท่องผ่านแม่น้ำ ทะเลสาบ และป่าเขาสลับซับซ้อนไปด้วยสีสันของใบไม้ผลัดสี ระหว่างทางจะมีจุดให้พักท่องเที่ยวที่ Agawa Canyon Wilderness Park อุทยานขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เช่น น้ำตก และ Agawa Canyon ซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่ค่ะ

Algonquin Provincial Park

ถ้าอยากชมความสวยงามของต้นเมเปิ้ลที่ผลัดใบเป็นสีแดง ต้องไปที่ อุทยาน Algonquin Provincial Park ตั้งอยู่ระหว่าง อ่าวจอร์เจียน (Georgian Bay) และ แม่น้ำออตตาวา (Ottawa River) ในรัฐออนตาริโอค่ะ ช่วงที่สวยที่สุดนั้นจะเป็นช่วงปลายเดือนกันยายนจึงถึงต้นเดือนตุลาคม และหลังจากนั้นอีกสัก 2-3 สัปดาห์ก็จะเป็นเวลาที่ต้นแอสเพน ต้นทามาแร็ค

และต้นโอ๊คแดงจะผลัดสี ให้ทิวทัศน์ที่สวยงามไม่แพ้กัน นอกจากธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น กวางมูซ หมาป่า หมีดำ ตัวนาก จิ้งจอก หรือ แรคคูนก็ตาม ซึ่งบ่งบอกได้อีกความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี

Kananaskis

เทือกเขา Kananaskis ในรัฐอัลเบอต้า (Alberta) เป็นจุดหมายสำหรับคนที่รักการผจญภัยท่ามกลางธรรมชาติ กิจกรรมไฮไลท์ของที่นี่คือการเดินทางผ่านเส้นทางศึกษาธรรมชาติด้วยการเดินเท้าและขี่จักรยาน

ผ่านต้นสนที่ตั้งเรียงรายอย่างหนาแน่น และ ทะเลสาบ Wedge Pond ที่มีเทือกเขา Kananaskis ตั้งตระหง่านอยู่ทางด้านหลัง สวยงามเป็นอย่างมาก

Montreal Botanical Garden

สวนพฤกษศาสตร์มอนทรีออล (Montreal Botanical Garden) ถือเป็นเพชรเม็ดงามแห่งเมืองมอนทรีออล (Montreal) รัฐควิเบก ประเทศแคนาดาเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นสวนขนาดใหญ่ในพื้นที่ 450 ไร่ เต็มไปด้วยพืชพันธุ์ไม้ใบ ไม้ดอก และต้นไม้ถึง 22,000 ชนิด แบ่งเป็นโซนต่างๆ กว่า 30 โซน

ซึ่งแต่ละโซนก็จะมีคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกันไป เช่น สวนจีน (Chinese Garden) สวนญี่ปุ่น (Japanese Garden) และสวน First Nation Garden ที่จะพาให้ทุกคนไปชมพันธุ์ไม้เฉพาะถิ่นสุดแปลกตากว่า 300 ชนิด และแน่นอนว่า เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นสวนพฤกษศาสตร์ระดับโลกแล้ว ต่อให้ไปฤดูไหนก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวทั้งนั้น ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยค่ะ

Laurentian Mountain

เทือกเขา Laurentian (Laurentian Mountains) เป็นเทือกเขาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และเป็นที่เลื่องชื่อในเรื่องของทัศนียภาพที่สวยงามของขุนเขาและสายน้ำ

โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนจนถึงกลางเดือนตุลาคม เราจะได้เห็นต้นเมเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีแดง และสีเหลืองสีส้มของต้นไม้ชนิดอื่นๆ ที่ขึ้นสลับซับซ้อนอย่างสวยงาม

Butchart Gardens

   

สวน Butchart (Butchart Gardens) ตั้งอยู่ในเมือง Brentwood ใกล้ๆ กับ วิคตอเรีย (Victoria) เมืองหลวงของรัฐบริติช โคลัมเบีย (British Columbia) เป็นสวนที่มีดอกไม้หมุนเวียนมาตกแต่งตามฤดูกาล

เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ต้นเมเปิ้ลญี่ปุ่นที่ปลูกในสวนสไตล์ญี่ปุ่นจะผลัดใบเป็นสีแดงสด แซมกับดอกเบญจมาศสีเหลืองทองอร่ามได้อย่างลงตัว ตรงกลางสวนจะมีสระน้ำและสะพานญี่ปุ่นทอดข้ามผ่าน เสริมความสุนทรีย์ให้กับสวนแห่งนี้มากยิ่งขึ้นค่ะ

Okanagan Valley

     

เมืองโอ๊กคานากัน (Okanagan) เปรียบเสมือนเหมือนพี่เมืองน้องของ แวนคูเวอร์ (Vancouver) รัฐบริติช โคลัมเบีย อีกทั้งทางทิศใต้ยังอยู่ติดกับรัฐวอชิงตัน (Washington) ของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย เนื่องจากมีสภาพอากาศที่ค่อนข้างอบอุ่น

ที่นี่จึงเป็นสถานที่ปลูกไร่องุ่นชั้นดีของแคนาดา ทำให้ถูกขนานนามว่าเป็น ทัสคานีของแคนาดา เลยค่ะ นอกจากนี้ยังเป็นเมืองพักตากอากาศยอดฮิตที่ใครๆ ก็ทำกิจกรรมสนุกๆ ไม่ว่าจะเป็น พายเรือคายัค เดินป่า ปีนเขา ขี่จักรยานชมไร่องุ่น จิบไวน์ และอื่นๆ อีกมากมาย

Stanley Park

มาถึง แวนคูเวอร์ (Vancouver) เมืองท่าชื่อดังของประเทศแคนาดา และเป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก นอกจากความเจริญทางด้านการศึกษาและเศรษฐกิจแล้ว ภายในเมืองยังมี Stanley Park สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในเมือง

ด้วยพื้นที่กว่า 1,000 เอเคอร์ จึงทำให้ที่นี่เปรียบเสมือนเป็นป่ากลางเมืองเลยก็ว่าได้ เมื่อเข้าสู่ปลายเดือนกันยายน ใบไม้ก็จะค่อยๆ ผลัดสีเป็นสีส้ม สีเหลือง สีแดง ตัดกับอากาศที่ค่อยๆ เย็นลงในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่างๆ เช่น กระรอก หงส์ และเจ้าแรคคูนอีกด้วยค่ะ ถือไม่ใช่เรื่องแปลกเลยถ้าจะจ๊ะเอ๋กับพวกเขาระหว่างเดินเล่นหรือขี่จักรยานอยู่ในสวน

Cape Breton Island

เส้นทาง Cape Breton Island ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และแน่นอนว่าช่วงเวลาที่น่าไปขับรถเล่นมากที่สุดก็คือฤดูใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ ระหว่างทางทุกคนจะผ่านต้นไม้ที่ผลัดใบไล่สีแดง สีส้ม สีเหลืองอย่างสวยงาม รวมถึง น้ำตก Egyptian Falls

น้ำตกสวยที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติอันร่มรื่น นอกจากทัศนียภาพที่สวยงามแล้ว พวกเรายังมีโอกาสได้สัมผัสวัฒนธรรม Celtic ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของคนในแถบนี้อีกด้วย ถือเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากๆ แห่งหนึ่งในแคนาดาเลยล่ะ

>>”}” data-sheets-userformat=”{“2″:769,”3”:{“1″:0},”11″:3,”12″:0}”>ติดตามข้อมูลอัปเดตล่าสุดเพิ่มเติมได้ที่ >>> best4youweb

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here